วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553


พูดอังกฤษคล่องเมื่อต้องไปเที่ยวเพื่อผ่อนคลายยามราตรี

สุดสัปดาห์มาถึงแล้ว ได้เวลาออกเที่ยวสนุกสนานกัน ! การเที่ยวมีมากมายหลายแบบให้คุณเลือกเพลิดเพลินใจ เชิญเรียนรู้ประโยคสนุกๆ ต่อไปนี้ที่คุณสามารถนำไปใช้ให้เข้ากับโอกาสได้

Dressed to the nines
การออกเที่ยวราตรีทุกครั้งต้องเปิดฉากด้วยการใช้จินตนาการอย่างเต็มที่เพื่อเลือกชุดที่จะใส่ ! เมื่อคุณdressed to the nines หมายถึงคุณกำลังใส่เสื้อผ้าที่ทันสมัยตามแฟชั่นเปี๊ยบ คุณอาจพูดว่า "If we're going to the cocktail party we'd better get dressed to the nines!"

Grab a bite to eat
คุณอาจเริ่มต้นคืนนี้ด้วยการทานอาหารรองท้อง ที่ร้านอาหารง่ายๆ หรือคาเฟ่ การกระทำอย่างนี้เรียกกันว่าเป็นการgrabbing a bite to eat. อย่างเช่นเพื่อนคุณอาจถามว่า "Do you want to grab a bite to eat before we go out?"

Go and catch a flick
ตอนเย็นๆ นั้นเหมาะที่สุดที่จะไปดูหนังซึ่งพูดอย่างกันเองว่า going to catch a flick คุณอาจได้ยินเพื่อนพูดชวนว่า "Let's go and catch a flick at the cinema tonight!"

Paint the town red
เมื่อถึงตอนนี้ทุกคนอาจรู้สึกกระปรี้กระเปร่าพร้อมแล้วที่จะสนุกสนานอย่างเต็มที่หรือเรียกได้ว่า painting the town red ซึ่งก็คือการพบปะเจอะเจอไปเที่ยวสนุกกันในตอนกลางคืนระหว่างเพื่อนฝูง ! ดังนั้นถ้าคุณได้ยินเพื่อนถามว่า "Do you want to go and paint the town red?" อย่าไปนึกว่าเขาอยากให้คุณพกกระป๋องสีพร้อมแปรงทามาด้วยล่ะ!

Go bar-hopping
การเที่ยวคืนนี้ของคุณอาจรวมไปถึงการแวะเข้าไปดื่มที่บาร์ต่างๆ และพูดคุยสนุกสนานเฮฮากันกับเพื่อนๆ คำว่า bar-hopping หมายถึงคุณเข้าไปนั่งที่บาร์นี้ซักพัก เสร็จแล้ว hop หรือย้ายไปบาร์อื่นๆ อีกต่อๆ กันไป

Shoot some pool
ขณะที่อยู่ระหว่างการ bar-hopping อยู่นั้น บางบาร์อาจมีโต๊ะบิลเลียดให้ใช้ และถ้าคุณนึกอยากสนุกซักเกมส์สองเกมส์ก็ตามสบาย คำว่า shooting some pool หมายถึงแทงบิลเลียดนั่นเอง !

Dance the night away
การได้ยินเพลงสนุกคึกคักระหว่าง bar-hopping อาจทำให้ทุกคนรู้สึกคันเท้าอยากเต้นดิสโก้ขึ้นมาก็ได้ ! คำว่า Dancing the night away หมายถึงเต้นรำสนุกสนานนานนับหลายชั่วโมงจนถึงดึกดื่นค่อนคืนบางทีอาจเลยเข้าไปถึงจวนเช้าของวันใหม่ ดังนั้นถ้าวันรุ่งขึ้นมีใครทักว่าทำไมคุณถึงดูเหนื่อยล้านัก ก็บอกเขาไปว่า "Because last night I danced the night away!"
www.englishtown.com

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พูดภาษาอังกฤษด้านธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ



พูดอังกฤษด้านธุรกิจอย่างไรจึงจะดึงดูดความสนใจคนฟัง
การที่จะประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้ คุณต้องมีความมั่นใจเป็นทุน แต่ในกรณีที่คุณต้องติดต่อทางธุรกิจที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อโดยที่คุณยังพูดอังกฤษไม่คล่อง มันอาจไม่ง่ายดังที่คิดนักที่จะแสดงความมั่นใจในทุกสถานการณ์ ยังไงก็ตาม อย่าเพิ่งท้อแท้เสียก่อนล่ะ ! ถึงบางครั้งคุณจะไม่แน่ใจว่าจะใช้ศัพท์คำไหนดี คุณก็สามารถลื่นไหลไปได้เรื่อยๆ ทำเหมือนรู้ดีว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ได้เช่นกัน เคล็ดลับขึ้นอยู่กับการใช้คำเกริ่นเริ่มต้นประโยค ลองอ่านรายละเอียดต่อไปนี้เพื่อดูว่าควรใช้คำเกริ่นอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ !
พูดให้ชัดตรงประเด็น
ถ้าคุณต้องเป็นผู้นำในการประชุม สิ่งสำคัญคือคุณต้องทำให้ทุกคนพูดอภิปรายให้ตรงประเด็นอยู่เสมอ วิธีที่ดีที่สุดก็คือเริ่มด้วยการเอ่ยออกไปตรงๆ ว่า "The purpose of this meeting is to decide on the company logo."เป็นต้น และควรหลีกเลี่ยงการพูดอ้อมค้อมไม่เจาะจงอย่างเช่น "Well, here's the agenda," หรือ "Maybe we should get started." เพราะนั่นจะทำให้คุณไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ อีกต่อไปทันที
ใช้คำที่มีน้ำหนัก
เจ้านายของคุณเรียกประชุมเพื่ออภิปรายถึงปัญหาหนึ่งๆ และถ้าเขาขอความคิดเห็นจากคุณ ทางที่ดีคุณควรตอบโดยใช้ข้อความขึ้นต้นอย่างเช่น "I recommend ..." หรือ "In my opinion ...." นอกเหนือจากนี้ ถ้าคุณต้องการให้ความเห็นของคุณมีน้ำหนักขึ้น คุณควรใช้คำว่า "should" แทนที่จะใช้คำว่า "could" เพราะฟังดูมีน้ำหนักกว่า เช่น "In my opinion, we should consider different vendors" ฟังดูมีน้ำหนักกว่า "Maybe we could think about different vendors." ตั้งเยอะ
พูดอย่างหนักแน่นมั่นใจ
ถ้าคุณต้องการให้ความเห็นของคุณมีน้ำหนักและดึงดูดให้คนฟังคล้อยตามมากขึ้นไปอีก คุณควรเริ่มประโยคด้วย "I'm positive that …" หรือ "I really feel that …" เพราะการที่คุณพูดว่า"I'm positive that it's the vendor's fault" แสดงให้คนฟังเห็นว่าคุณมั่นใจและเชื่อมั่นในสิ่งที่พูดจริงๆ เพราะความหมายที่สื่อออกมาจากประโยคข้างต้นก็คือ "ผมแน่ใจว่าอย่างนั้น และคุณก็ควรจะเห็นด้วยกับผมเช่นกัน !" ส่วนการที่จะแสดงให้คนฟังเห็นว่าคุณไม่แน่ใจในเรื่องที่พูดเท่าไหร่นัก สามารถพูดได้อย่างนี้ "John in Marketing said it could be the vendor's fault. I thought he had a good point."
ก้าวสู่ประเด็นต่อไป
การประชุมอภิปรายทางธุรกิจนั้นบางครั้งผู้ร่วมประชุมอาจเขวออกนอกเรื่อง คุณต้องใช้ไหวพริบที่จะดึงทุกคนให้กลับมาพูดให้ตรงประเด็น ถ้าคุณรู้สึกว่าการประชุมนั้น(ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่)เริ่มเบี่ยงเบนออกนอกจุด คุณควรกล่าวว่า "Let's move on to the next point." เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณมีอำนาจชี้ขาดทิศทางความเป็นไปของการประชุมนั้น และคุณจะคงภาพพจน์นั้นไว้ได้ตราบใดที่คุณไม่ใช้คำว่า "Maybe" หรือ "Um."
แสดงความคิดเห็นของตัวเอง
บางครั้งคุณต้องแสดงความคิดเห็นที่ขัดกับผู้ร่วมประชุมคนอื่น และถ้าคุณไม่พูดโต้แย้งอย่างมีประสิทธิภาพ ความเห็นของคุณก็จะถูกมองข้ามไปโดยง่าย การใช้ประโยคอย่าง "I'm afraid I can't agree with this plan" เป็นการพูดความไม่เห็นด้วยของคุณอย่างชัดเจนแต่สุภาพ ซึ่งให้ผลดีกว่าการพูดที่แสดงความลังเลอย่าง "Well, I'm not sure; it doesn't seem like it will work।" เป็นต้น व्व्व.एन्ग्लिश्तोवं.com

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประโยคอังกฤษที่นายจ้างชอบฟัง
คุณได้งานในบริษัทต่างชาติสมดังปรารถนา แล้วไงล่ะ ทุกครั้งที่คุณต้องสื่อสารกับนายจ้างด้วยภาษาอังกฤษ คุณตกประหม่าพูดอะไรไม่ออกซักที อย่ากลัวไปเลย ! พยายามแสดงให้นายจ้างเห็นคุณสมบัติห้าข้อต่อไปนี้แล้วจำประโยคเหล่านี้ไปใช้ - รับรองว่านายจ้างจะชอบคุณแน่ !
ความกระตือรือร้น
ทัศนคติที่ดีจะมีผลอย่างเห็นได้ชัด ! พยายามแสดงความตั้งใจจริงของคุณให้ปรากฎออกมาโดยการอาสาสมัครทำงานชิ้นนั้นด้วยการใช้ประโยคที่ว่า "I'd be happy to do that." นอกเหนือจากนี้ พยายามสื่อถึงความเต็มใจของคุณที่จะได้รับความผิดชอบมากขึ้นด้วยการถามว่า "Is there anything else you'd like me to do?" และแน่นอนที่สุดว่าเมื่อนายจ้างเอ่ยคำขอบใจแก่คุณสำหรับงานที่คุณทำ จงเอ่ยตอบด้วยคำว่า "My pleasure" เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าคุณชอบในสิ่งที่คุณทำจริงๆ !
การสนับสนุน
เพราะทุกคนต่างก็อยากอยู่ใกล้กับผู้คนที่see eye to eye (คนที่มีความเห็นตรงกับเราเป็นส่วนใหญ่) กับตัวเองทั้งนั้น คุณจึงควรสนับสนุนความคิดของนายจ้างเพื่อว่าเขาหรือเธอจะมีความรู้สึกที่เป็นมิตรต่อคุณ ใช้ประโยคอย่าง "Good point!" หรือ "I couldn't agree with you more" หรือ "That's exactly how I feel" ในการแสดงความเห็นด้วยกับเขา แล้วนายจ้างจะรู้สึกซาบซึ้งในการได้รับความสนับสนุนจากคุณ
ความสุภาพ
จงจำไว้ว่าการเอ่ยคำว่า"please" หรือ "thank you" อย่างจริงใจนั้นสำคัญ ถ้าคุณมีความสัมพันธ์ทางการงานที่ดีกับนายจ้างหรือผู้จัดการ สิ่งที่ต้องระลึกถึงอยู่เสมอคือคุณต้องรักษาความสุภาพไว้ ถ้าคุณมีเหตุจำเป็นต้องขัดจังหวะนายจ้างที่กำลังคุยกับคนอื่นอยู่ คุณควรพูดว่า "Excuse me for interrupting." ถ้าคุณต้องการขอรายละเอียดข้อมูลใดๆ จากเขา คุณควรเอ่ยเพิ่มเติมว่า "Please get back to me as soon as possible." และหลังจากที่เขาติดต่อกลับมาที่คุณแล้ว อย่าลืมบอกเขาว่า "Thanks for your help!"
ความมีประสิทธิภาพ
การทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้ ! คุณจะสร้างความประทับใจหากคุณทำงานอย่าง on the ball ซึ่งหมายถึงคุณมีความสามารถเพียงพอและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานชิ้นใดก็ตาม คุณควรกล่าวว่า "I'll get right on that" เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณจะเริ่มจัดการกับงานชิ้นนั้นทันที หรือคุณควรบอกเจ้านายของคุณว่า "I'll get that to you by 6 p.m." ถ้าเขาหรือเธอถามถึงงานที่คุณรับทำอยู่
ความมีจินตนาการ
ถ้าคุณมีความคิดที่เข้าท่าก็อย่าอายที่จะนำเสนอให้เจ้านายฟัง ! เพราะนี่จะเป็นการแสดงว่าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ ทะเยอทะยาน(ในทางที่ดี) และมองหาทางที่จะปรับปรุงบริษัทให้ดีขึ้น ใช้ประโยคอย่าง "I was thinking that it might be a good idea to …" หรือ "Why don't we …" เพื่อเกริ่นเข้าสู่เรื่องความคิดที่คุณมีโดยไม่สร้างความกดดันให้ผู้ฟัง อย่างไรก็ตาม พยายามเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการปฏิเสธที่คุณอาจได้รับ เพราะไม่ใช่ว่าความคิดดีๆ นั้นจะได้รับovernight hit หรือประสบความสำเร็จในทันทีเสมอไป - แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรเลิกนำเสนอความคิดที่มีอีกต่อไปเลยหรอกนะ ! www.englishtown.com